จำนอง คือ
การจำนองอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นประกันหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน หากคู่สัญญามิได้ตกลงกันกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ หรือไม่มีกฎหมายใดกำหนดอัตราดอกเบี้ยโดยชัดแจ้งแล้ว ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้ใช้ อัตราดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี หากคู่สัญญาตกลงกันกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปี แต่ถ้ากำหนดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละสิบห้าต่อปีเป็นความผิดอาญาและขัดต่อความสงบ
เรียบร้อยของประชาชน ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะไม่มีผลผูกพันคู่กรณี
๒. หลักเกณฑ์การจำนอง
๒.๑ การจำนองต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ มิฉะนั้นตกเป็นโมฆะไม่มีผลผูกพันคู่กรณี
๒.๒ ต้องระบุทรัพย์สินที่จำนองให้ชัดเจน
๒.๓ ต้องระบุจำนวนเงินเป็นเงินไทยเป็นจำนวนแน่ตรงตัว หรือจำนวนขั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองไว้เป็นประกัน
๓.ทรัพย์อะไรจำนองได้ ทรัพย์ที่จดทะเบียนจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ที่ดินและทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินที่มีลักษณะเป็นการถาวร หรือประกอบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับที่ดินที่ดินที่จำนองได้โดยทั่วไป ได้แก่ ที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแล้ว อันได้แก่ที่ดินมีโฉนดที่ดิน หมายความรวมถึงโฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง และตราจองที่ตราว่า "ได้ทำประโยชน์แล้ว" หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ก. และ น.ส. ๓ ข.)สำหรับที่ดินที่มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑) จำนองได้ แต่ที่ดินประเภทนี้ ทางราชการยังไม่ได้รับรองว่าผู้แจ้งการครอบครองจะมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ยังไม่เป็นหลักประกันที่แน่นอนดังนั้น ในการจำนอง ควรให้ผู้จำนองขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเพื่อเป็นหลักฐานที่แน่นอนเสียก่อน แต่หากผู้จำนองไม่ประสงค์จะขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินและผู้จำนองกับผู้รับจำนองยืนยันจะให้จดทะเบียนพนักงานเจ้าหน้าที่ก็จดทะเบียนให้
๔. สิทธิของผู้จำนองและผู้รับจำนอง
๔.๑ สิทธิของผู้จำนอง เนื่องจากการจำนองเป็นการเอาทรัพย์สินมาเป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนองให้แก่ผู้รับจำนอง ดังนั้น แม้ว่าทรัพย์สินจะได้นำมาจำนองเป็นประกันการชำระหนี้แล้วผู้จำนองจึงยังคงเป็นเจ้าของอยู่ตามเดิมและยังคงครอบครองทำประโยชน์ในทรัพย์สินที่จำนองได้ต่อไป
๔.๒ สิทธิของผู้รับจำนอง
๔.๒.๑ ผู้รับจำนองมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้ทั่วไป
๔.๒.๒ ผู้รับจำนองบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองได้ไม่ว่าทรัพย์สินที่จำนองจะโอนไปให้แก่ผู้ใด การจำนองย่อมตกติดไปกับตัวทรัพย์สินที่จำนอง
๕. การบังคับจำนอง
๕.๑ ผู้รับจำนองต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควรซึ่งกำหนดในคำบอกกล่าวนั้นถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกล่าว ผู้รับจำนองจะฟ้องศาล เพื่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้
๕.๒ เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์จำนองให้นำเงินชำระหนี้คืนให้แก่ผู้รับจำนอง หากมีเงินเหลือเท่าใดให้ส่งมอบแก่ผู้จำนอง
๕.๓ เมื่อฟ้องศาลแล้ว ผู้รับจำนองยังมีสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์สินที่จำนองหลุดเป็นของผู้รับจำนองได้ ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
๕.๓.๑ ลูกหนี้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเวลาถึง5ปี
๕.๓.๒ ผู้จำนองมิได้แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาล ว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ และ
๕.๓.๓ ไม่มีการจำนองรายอื่นหรือบุริมสิทธิอื่นได้จดทะเบียนไว้เหนื่อทรัพย์สินจำนอง
๕.๔ ถ้าผู้รับจำนองเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นของผู้รับจำนอง และราคาทรัพย์จำนองนั้นต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระอยู่หรือถ้าเอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ ได้เงินสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระเงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น แต่หากมีการตกลงกันว่า "ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ ลูกหนี้ยอมใช้เงินที่ขาดจนครบหรือยอมให้ยึดทรัพย์สินอื่นนอกจากที่จำนองนำมาบังคับชำระหนี้จนครบ" ข้อตกลงเช่นนี้มีผลบังคับกันได้
ที่มา : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรมกรมที่ดิน
โทร. ๐-๒๑๔๑-๕๕๙๒-๔ www.dol.go.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น